• Home
  • About Norakaa

Norakaa.com

เขียนไปเรื่อย

Author: norakaa

Future of music : Prosumer Take Center Stage

February 7, 2013 by norakaa

วันนี้นั่งเล่นเนตหาข้อมูลเอาไปทำงาน (พูดให้ดูดีไปงั้น จริงๆคืออู้งานนั่นเอง) แล้วพบวีดีโออันนึงน่าสนใจมาก เขาพูดถึงเรื่องอนาคตของการสร้างบทเพลงในยุคอนาคต(จริงๆตอนนี้ก็เป็นแล้วนะ)

เขาบอกว่า โลกดนตรีเนี่ย ผู้คนที่เป็น Prosumer กำลังจะเป็นผู้ที่มีบทบาทเด่นที่สุดในยุคนี้และยุคหน้า ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่ส่งเสริมให้คนเหล่านี้สามารถแสดงความสามารถออกมาได้ง่ายขึ้น แจกจ่ายผลงานได้ง่ายขึ้น โปรโมตผลงานได้ง่ายขึ้น มีตัวตนในโลกได้ง่ายขึ้น และสุดท้าย เขาสามารถขายผลงานได้ง่ายขึ้น

Prosumer คือใคร??

Prosumer = Producer + Consumer คือ คนธรรมดานี่แหละ ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพโดยตรงกับการผลิตผลงานพวกนี้ แต่มีฝีมือและสามารถทำงานเจ๋งๆออกมาได้ พวกเขาเสาะหาเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆในการผลิตผลงานให้มีคุณภาพทัดเทียมกับผลงานของระดับโปร ด้วยต้นทุนที่เขาสามารถทำได้

ปัจจัยอะไรที่ทำให้ Prosumer มีบทบาทเด่น?

ปัจจัยมีเยอะมากเลยนะที่ทำให้คนๆนึงผลิตผลงานได้น่ะ เริ่มตั้งแต่ฝึกเล่นดนตรีเลยก็ได้ ยุคนี้หลายๆคนก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนดนตรีตามโรงเรียนเลย เครื่องดนตรีหลายๆเครื่องสามารถฝึกเล่นเองได้โดยการใช้วีดีโอจากยูทูป (ผมเองก็ฝึกเบสจากยูทูปนะ) รวมถึงหาอ่านทฤษฎีดนตรีได้จากเว็บต่างๆ โหลดแบบฝึกหัดมาฝึกเอง ฯลฯ คือทุกอย่างมันง่ายขึ้น หลายๆอย่างแจกฟรี เรียนได้สบายๆ (และหลายๆอย่างแจก crack :p)

พอจะเริ่มมาทำเพลงเอง อุปกรณ์ในการทำยุคนี้ก็ง่ายขึ้นเยอะ มีคอมตัวนึง + audio interface ที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2000 บาท พร้อมซอฟท์แวร์ทำเพลง แค่นี้ก็เริ่มต้นได้แล้ว แถมซอฟแวร์หลายๆตัวเองก็ทำมาแจกฟรี พร้อมคุณสมบัติที่พอจะทำงานระดับเจ๋งๆได้เลย (ตัวอย่างเช่น Samplitude silver ที่เป็น DAW พร้อมใช้งาน ก็มีแจกฟรีจากเว็บ Soundcloud ) รวมไปถึง plug-in กับ samp ต่างๆ ที่มีทั้งแจกฟรี และขายราคาถูกให้เลือกได้เยอะแยะมากบนเนต (แน่นอนว่ามีพวก crack แจก ฮิฮิ)

การแจกจ่ายนี่ยิ่งง่ายเลย เว็บที่เป็นเครือข่ายสังคมนี่แหละคือคีย์สำคัญ ทั้ง youtube, facebook, twitter, soundcloud ฯลฯ พวกนี้เปิดพื้นที่ให้แจกจ่ายผลงานได้สบายๆ แชร์ได้ง่ายหรือแม้กระทั่งจะขายผลงานของตัวเองก็สามารถทำได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มบนเนตเช่น iTunes ก็ทำได้ ไม่ต้องไปง้อใคร

การร่วมมือกันผลิตผลงานก็เป็นสิ่งที่เกิดง่ายขึ้นมากในยุคนี้ ยกตัวอย่างที่ญี่ปุ่นนี่ เขาจะมีสังคมของการเล่นดนตรีปิดหน้า คืออัดคลิปการเล่นดนตรีลง youtube นี่แหละ แต่ก็จะปิดหน้าตัวเอง โชว์แต่ฝีมือ ซึ่งแต่ละคนนี่เมพมากๆ อย่างที่ผมรู้จักก็ Tissue Hime คนนี้เล่นเบสเทพมาก จนสุดท้ายก็ได้รวมตัวกันในเว็บบอร์ด อัดเพลงกันผ่านเนตออกมาเป็นประมาณนี้

โหดสึด

แล้ว Prosumer เมืองไทยล่ะ?

ตอบตรงๆคือ ไม่รู้ 5555 แต่ก็เห็นสัญญาณที่ดีเยอะนะ มีร้านที่นำเข้าอุปกรณ์ทำเพลงเจ๋งๆมาขายเยอะเลย เช่น Proplugin หรือ Kimleng Audio ฯลฯ ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดี ว่าตอนนี้อุปกรณ์คุณภาพสูง ราคาถูกๆ เริ่มเอาเข้ามาขายแล้ว เหลือแต่ทำมาโชว์กันนี่แหละ 😀

แถมการทำพื้นที่ให้โปรโมตกันแล้วนะ เช่นเพจ Bandzooka ที่เปิดพื้นที่ให้คนที่อยากโชว์ผลงานได้เอาผลงานมาโชว์ หรือเพจ BedroomStudio ของคลื่น FAT ก็เปิดโอกาสให้โชว์ผลงานได้เช่นกัน นับว่าเป็นสิ่งดีเลยแหละ 😀

ปิดท้ายด้วยงานที่ทำกันเองกับเพื่อนๆ ทำเพลงกันในห้องนอนนี่แหละ สนุกดี 😛 (Hard sale ตอนจบซะงั้น 555)

Posted in: Music Tagged: bedroom studio, low cost, music, production, prosumer, social media, technology, video

ความรู้สึกภายใต้หน้ากากที่เขียนว่าเสรีภาพ

January 25, 2013 by norakaa

 “สิ่งที่สำคัญคือเสรีภาพ ถ้าไม่มีเสรีภาพก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ เพราะเท่ากับเราถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ลงไป คือที่มันเจ็บใจ มีสิทธิประกาศตามรัฐธรรมนูญ แต่ในทางปฎิบัติ ตรงข้าม และระบบนี้ก็บังคับให้สารภาพอย่างเดียว แล้วก็ยังมีรูปแบบการทรมานแบบใหม่เกิดขึ้น คือการไม่ให้ประกันตัว” – สมยศ พฤกษาเกษมสุข (กล่าวกับคุณประวิตรก่อนศาลอ่านคำพิพากษา)

23 มกราคม 2013 เป็นวันที่คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ถูกตัดสินให้ผิดกฏหมายอาญามาตรา 112 ได้รับโทษติดคุก 10 ปี (+1 ปีจากคดีอื่น รวม 11ปี) ผมเกิดความรู้สึกเศร้าใจ เหมือนทุกครั้งที่ได้ยินคำตัดสินคดีนี้ในเคสของคนอื่น

ทุกครั้งที่มีคำตัดสิน หรือมีเรื่องราวของคนที่โดนมาตรานี้ออกสื่อ ผมจะเห็นคนมากมายออกมาพูดทำนองว่า “สมควรโดน”, “ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร”, “ออกจากประเทศไทยไปซะ” ฯลฯ พวกเขาแน่ใจเหรอว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่จะรักษาให้โลกที่เขาใช้ชีวิตอยู่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป??

การเปลี่ยนแปลงแบบสงบคงเป็นไปได้ยากสินะประเทศนี้………………………..

Posted in: เวิ่นเว้อ Tagged: 112, freedom, law, lese majesty, somyos, thai

sponsored music : สินค้ากลายเป็นเสียงเพลง

January 14, 2013 by norakaa

วันนี้นั่งฟังเพลงใน youtube ไปเรื่อยๆ ก็เจอเพลงนึงชื่อเพลงว่า keep it 100 เป็นเพลงของวง mild feat กับวงไทเทเนี่ยม ซึ่งตัวเพลงก็เจ๋งดีนะ ชอบ เหมาะกับใช้ในผับหรือปาตี้มากๆเลย แต่พอฟังซัก 2 รอบก็รู้สึกได้ว่า ตัวเพลงและ mv มันมีกลิ่นของสินค้าชนิดนึง พอสังเกตอีกทีก็เห็นชัดเลย นี่มัน 100 pipers นี่หว่า 5555

เพลงนี้ผมว่ามันสะท้อนภาพของ 100 pipers ชัดมากเลย ดนตรีไปได้ดีกับชนิดสินค้า จับตลาดวัยรุ่นกับ first jobber แถมเนื้อหาเกี่ยวกับมิตรภาพตามสตายของ 100 pipers สำคัญคือ เพลงแม่งเจ๋งพอจะใส่อัลบัมได้เลยแหละ 😀

จริงๆการตลาดแบบนี้มันก็มีมานานแล้วนะที่ให้ศิลปินทำเพลงให้กับสินค้าต่างๆ อย่างสมัยก่อนที่จำได้ก็มีเพลง Make life light ของวง Jetset’er ที่ทำให้เบียร์ช้าง light

หรือจะเป็นเพลงของวง The Jukks ที่ทำให้ร้านจุ่มแซบฮัท(แต่อันนี้มันค่อนข้าง hard sale ไปนิดนะ)

หรือจะเป็นของ land and house ก็เจ๋งดีนะ

ที่ดังๆและทุกคนรู้จักก็คงเป็นของ toyota ที่ให้ดามาร้อง

ส่วนตัวผมชอบการตลาดแบบนี้นะ ถ้าหากว่าเจ้าของสินค้าไม่พยายามยัดเยียดสินค้าลงในตัวเพลงมากเกินไป คือให้โจทย์มากว้างๆหน่อย ให้ศิลปินมีพื้นที่ได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไปได้บ้าง แล้วเพลงมันจะสวยงาม 😀 (ที่ยกตัวอย่างมานี่ ผมว่าใช้ได้ทุกเพลงเลยนะ)

อยากรู้จริงๆว่า อนาคตจะมีสินค้าชนิดไหนมาทำการตลาดแบบนี้เพิ่มอีกมั่ง น่าสนใจจริงๆ~~~~

อัพเดท 1 : นั่งค้นไปเรื่อยๆ ไปเจอเพลงนี้ นี่มันแบบตกใจมากว่า toyota ทำมานานแล้วเรอะเนี่ย เหยดดด

Posted in: Music Tagged: 100 pipers, artist, brand, branding, entertainment, marketing, music, product, sponsor

Asymmetrical Gameplay : เมื่อประสบการณ์เล่นเกมเป็นเรื่องปัจเจก

January 9, 2013 by norakaa

ครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า asymmetrical gameplay คือตอนที่ดูวีดีโอตัวอย่างของเกม Dead Space 3 ที่การเล่นเกมแบบ Co-op นั้น ผู้เล่นแต่ละคนจะเจอกับเหตุการณ์ระหว่างการเล่นไม่เหมือนกัน ลองดูตัวอย่างจากวีดีโอนี้

จะเห็นว่า ระหว่างที่คนนึงกำลังอยู่ในภาพหลอน อีกคนต้องคอยยิงปกป้อง แถมหลายๆอย่างในฉากก็เห็นไม่เหมือนกัน ทำให้แต่ละคนได้รับประสบการณ์ระหว่างการเล่นที่แตกต่างกัน

จริงๆคอนเซปนี้ก็มีมานานแล้วนะ แต่เราอาจไม่ได้สังเกตกัน เช่นเกม DOTA ก็มีความไม่สมมาตรอยู่ คือตัวละครทุกตัวจะแตกต่างกัน มีจุดแข็งจุดอ่อนไม่เหมือนกัน ทำให้ประสบการณ์ในการเล่นต่างกัน หรืออย่างเกม PVP Online (ปิดตัวไปแล้วจากเมืองไทย) ที่แบ่ง gameplay ออกเป็นสองแบบคือ RTS กับ FPS ก็ถือเป็นตัวอย่างของ Asymmetric ได้

Asymmetrical gameplay เป็นแนวคิดที่เท่ดีอะ ชอบ คือแต่ละคนก็จะรับรู้ประสบการณ์ในการเล่นไม่เหมือนกัน แต่ก็เล่นเกมเดียวกัน เล่นพร้อมกัน ดำเนินเนื้อเรื่องไปพร้อมกัน

แล้วถ้าสมมติเอาแนวคิดเรื่องนี้มาผสมกับ gamifaction ล่ะ?? แล้วเอามาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าสนใจ มันจะเป็นไปได้ไหม?? เพราะ gamifaction นี่เป็นไอเดียที่หลายๆผลิตภัณฑ์ก็ทำอยู่แล้ว แต่ gameplay ของทุกคนเหมือนกัน แล้วก็ได้รับความสนุกในการเล่นเหมือนกัน ถ้าทำให้มันต่างกันไปล่ะ??

อยากรู้จริงๆว่าอนาคตจะมีใครเอาไอเดียพวกนี้ไปทำอะไรเท่ๆอีกมั้ยน้อ~~~

Posted in: game Tagged: asymmetric, game

ทายโจ๊กกันเถอะ

October 25, 2012 by norakaa

พยายามหาโอกาสพูดเรื่องการทายโจ๊กมานานละ คือแบบ เล่นตั้งแต่เด็ก ที่โรงเรียนก็สนับสนุนให้เล่น แล้วมันก็สนุกมากด้วย ได้ใช้ทั้งความคิด ฝึกทักษะภาษา แล้วก็ได้รางวัล 😀

ปกติแล้วทายโจ๊กจะอยู่ตามเทศกาลต่างๆ เช่นงานบุญกลางบ้าน หรือในโรงเรียนพนัสพิทยาคาร(โรงเรียนผมเองตอนเด็กๆ) จะมีให้ทายโจ๊กกันในวันกิจกรรมของโรงเรียน ไม่ก็วันภาษาไทย ซึ่งคนจัดก็จะเตรียมของรางวัลพวก ขนม ของเล่น ของใช้เล็กๆน้อยๆ ฯลฯ มาแจกให้กับคนที่ทายได้ ลองดูภาพบรรยากาศการทายโจ๊กดูนะ (ภาพจากเว็บ http://kanchanapisek.or.th)

คือเขาจะเอาโจ๊กมาห้อยๆไว้บนกระดาน หรือลวดที่ขึงไว้ แล้วก็คนเล่นก็จะนั่งเก้าอี้เป็นแถวๆ คิดคำตอบ โดยที่กรรมการที่เรียกว่า “นายโจ๊ก” จะมีอุปกรณ์คือ กริ่ง เอาไว้กดเวลาตอบถูก กับ กลอง เอาไว้กดเวลาตอบผิด เวลาจะตอบต้องขานชื่อของโจ๊กก่อนเสมอ เพื่อให้นายโจ๊กเข้าไปชี้ได้ถูก (พอชี้ปั๊บ ทุกคนก็จะจ้องมาที่โจ๊กนั้นเป็นสายตาเดียวกัน ซึ่งแม่งกดดันมาก -__-) โดยด้านบนของกระดาษโจ๊ก จะเขียนชื่อของโจ๊กไว้พร้อมกับตัวเลข ซึ่งจะบ่งบอกว่าคนที่คิดโจ๊กนั้นคือใคร ชื่อของคนคิดโจ๊กก็คล้ายๆนามปากกานี่แหละ เช่น บรรพต 215, ถวิล 34 ฯลฯ

โจ๊กจะมีสองชนิด คือโจ๊กอักษร กับ โจ๊กภาพ ลักษณะของโจ๊กภาพจะคล้ายๆกับเกมในเวทีทองสมัยก่อน คือมีภาพมาภาพนึงแล้วก็ให้ทายว่าภาพนั้นหมายถึงอะไร บางทีก็จะมีคำสั่งอื่นๆ หรือคำใบ้เขียนไว้ด้วย เช่น ถ้าเขียนคำว่า “ผวน” หมายถึงคำตอบที่ได้จากภาพต้องเอามาผวนก่อนถึงจะได้คำตอบที่แท้จริง หรือไม่ก็จะมีคำสั่งอื่นๆอีก เช่นอันนี้ (เผอิญหาตัวอย่างไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้กลับไปเล่นมาหลายปีแล้ว เลยวาดใหม่ละกัน -___-)

อันนี้เป็นโจ๊กภาพที่จำได้ขึ้นใจมาก เพราะกว่าจะตอบได้ ต้องวิ่งเข้าห้องสมุดไปค้นคว้าเกือบชั่วโมง แถมรางวัลของโจ๊กนี้คือเงิน 100 บาท (555+) คำตอบสำหรับโจ๊กนี้คือ “ทศชาติ” โดยคำที่แปลว่า 10 คือคำว่า ทศ ส่วนสีแดงคือสีชาด ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า “ชาติ” รวมกันคือ “ทศชาติ” คือ 10 ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้า แล้วก็ในโจ๊กนี้มีคำสั่งต่อว่า “อะไรบ้าง?” ก็คือให้ไปหาข้อมูลมาตอบ (แน่นอน กว่าจะได้ตอบต้องวิ่งไปหาอ่านก่อน เพราะจำไม่ได้หรอก T^T)

ลองดูอีกอันละกัน

โจ๊กนี้ไม่เฉลยละกัน ถ้าตอบได้ก็ comment เอานะ 😀

สำหรับโจ๊กภาพตัวอื่นๆ ถ้ามีโอกาสจะไปถ่ายรูปมาอัพให้ได้ชมกันละกันนะ ตอนนี้ไม่มีโอกาสก็ อดไปก่อน -..-

สำหรับโจ๊กตัวอักษร จะเป็นลักษณะของกลอน ซึ่งคำตอบเองจะมีความสวยงามในตัวของมันมาก โดยชนิดคำตอบของโจ๊กตัวอักษรจะเรียกว่า “ธงโจ๊ก” ซึ่งเป็นตัวที่จัดประเภทของโจ๊กตัวอักษร  (ข้อมูลธงโจ๊ก ก๊อบมาจาก http://www.nmt.or.th/)

          1.  พ้องคำเดี่ยว  เป็นธงโจ๊กที่มีคำเฉลยเป็นคำเดียวพยางค์เดียวเหมือนกันทั้งชุด  มี  3  อย่างด้วยกัน
                 1.1  พ้องพยัญชนะต้น  คำเฉลยเป็นพยัญชนะตัวเดียวกันต่างกันเพราะสระหรือ  ตัวสะกดเท่านั้น  เช่นคำตอบ  4  บรรทัดว่า  กา – กู – เก – แก  เป็นต้น
                 1.2  พ้องสระ  คำเฉลยเป็นพยัญชนะใดก็ได้แต่ต้องเป็นสระเดียวกัน  เช่น  คำตอบ  4  บรรทัดว่า ขา – ผา – ฝา – หา  เป็นต้น
                 1.3  พ้องตัวสะกด  คำเฉลยเป็นตัวสะกดในหลักภาษาไทย  แม่เดียวกันทั้งชุด  เช่น  คำตอบใน  4  บรรทัดว่า  ปา – สาก – กาก – ถาก  เป็นต้น
โจ๊ก ๑๑๗ คำเฉลย
          ใช้ดูดใช้ถ่ายได้ทั้งนั้น

ใช้ดูดหันตะแคงแย่งเดินได้

ใช้นิ่วแหย่หยิกหยอกบอกร่ำไร

ใช้หมดไปนั่นหนาว่าไปเอย

กล้อง

กลิ้ง

แกล้ง

เกลี้ยง

            2.  พ้องคำหน้า  เป็นธงโจ๊กที่มีคำเฉลยที่มีพยางค์เท่ากันทั้งชุดตั้งแต่  2  พยางค์ขึ้นไปและคำหน้าเหมือนกันทุกคำตอบ  เช่น คำตอบใน  4  บรรทัดว่า  ตาแข็ง – ตาแข – ตาเขียว – ตาขาว  เป็นต้น
โจ๊ก ๑๖๖ คำเฉลย
         เป็นดนตรีมีไม้ใช้ประกอบ

เป็นเสาสอบปักเคียงเรียงเป็นแถว

เป็นอำเภอเจออยู่ใต้ให้เป็นแนว

เป็นจังหวัดเล็กแล้วฝนชุกดี

ระนาด

ระเนียด

ระโนด

ระนอง

            3.  พ้องคำหลัง  เป็นธงโจ๊กที่มีคำเฉลยที่มีพยางค์เท่ากันทั้งชุดตั้งแต่  2  พยางค์ขึ้นไปและคำสุดท้ายเหมือนกันทุกคำตอบ  เช่น  คำตอบใน  4  บรรทัดว่า  ในหลวง – ฝนหลวง – ทางหลวง – เงินหลวง  ฯลฯ
โจ๊ก ๒๓๗ คำเฉลย
      ปีใหม่     โชคดี      มีไหว้กินได้

ไม้ผล      คนเห็น

วัดใหญ่         ในกรุง    ชัดเจน

มันเป็น          จังหวัด   บูรพา

ตรุษจีน

ส้มจีน

สามจีน

ปราจีน

            4.  พ้องคำกลาง  เป็นธงเจ๊กที่มีคำเฉลยที่มีพยางค์เท่ากันตั้งแต่  3  พยางค์ขึ้นไป  และคำกลางเหมือนกันทุกคำตอบ  เช่น  เขาสามมุข – งูสามเหลี่ยม – ช้างสามเศียร – ธงสามสี  เป็นต้น
โจ๊ก ๒๖๒ คำเฉลย
      เป็นปักษาร่ำไห้     โหยหวน

เป็นฝนหล่นฟ้าจวน     ท่วมท้น

เป็นมนุษย์จอมกวน     ทำแปลก

เป็นนงคราญมากล้น    ร่ำไห้หลายหน

นกพิราบ

พระพิรุณ

คนพิเรน

พร่ำพิไร

            5.  คำผัน  เป็นธงโจ๊กที่คำเฉลยมีพื้นฐานมาจากคำเดี่ยวเสียงยาว  บังคับด้วยไม้เอกไม้โทไม้ตรีและไม้จัตวา  เช่น  ปา – ป่า – ป้า – ป๊า – ป๋า  เป็นต้น
โจ๊ก ๒๙๔ คำเฉลย
          ใส่จดหมายใหญ่หรือเล็ก

ห้ามแต่เด็กเว้นผู้ใหญ่

เปล่งเสียงอำนวยชัย

พอทายได้รีบทบทวน

ซอง

ซ่อง

ซ้อง

ซอง-ซ่อง-ซ้อง

            6.  คำผวน  เป็นธงโจ๊กที่มีคำเฉลยที่มีจำนวนพยางค์เท่ากันตั้งแต่  2  คำขึ้นไป  ส่วนมากจะกำหนดคำแรกแต่ละบรรทัดไว้ให้มี  3  แบบ
                 6.1  ผวนแนวตั้ง  คือการรวมคำตอบตั้งแต่บรรทัดแรกมาถึงบรรทัดสุดท้ายแล้วผวนคำ
                 6.2  ผวนแนวนอน  คือการผวนคำที่กำหนดให้
                 6.3  ผวนกระทู้  คือเอาคำคมเป็นตัวตั้งแล้วตีความหมายตามคำคมนั้น
โจ๊ก ๓๕๑ คำเฉลย
      จี หนึ่งดาราผู้     เด่นไทย

จี สองคือชื่อไม้        ร่มครึ้ม

จี สามคือสัตว์ใด      ยกกล่าว

จี สี่เราปลาบปลื้ม    เท่าฟ้ารักไทย

จีรุณา – จารุณี

จีจุราม – จามจุรี

จีมราม – จามรี

จีจำเป้า – เจ้าจำปี

            7.  คำสุภาษิต  พังเพย  เป็นธงโจ๊กที่ไม่จำกัดพยางค์ก็ได้เพราะยึดถือ  คำตอบตามสุภาษิต  พังเพยที่เห็นอยู่ในสังคม  เช่น   คำตอบใน  4  บรรทัดเป็น ไกล้-เกลือ-กิน-ด่าง  เป็นต้น
โจ๊ก ๓๕๑ คำเฉลย
     ไม่ห่างอย่างแนบชิด

ก้อนน้อยนิดเค็มนักหนา

รับประทานนานมา

ค่าต่างกรดบทพังเพย

ใกล้

เกลือ

กิน

ด่าง

8.  คำพันหลักแบบลูกโซ่  เป็นธงโจ๊กที่บังคับจำนวนพยางค์ให้เท่ากันทุกบรรทัด  ตั้งแต่  2  คำหรือ  2  พยางค์ขึ้นไป  เอาคำสุดท้ายของคำตอบแรกมาเป็น  คำแรกของคำต่อไปจนครบทุกบรรทัดจะเห็นความเกี่ยวเนื่องกันไปเหมือนลูกโซ่  พ่อขุน – ขุนแผน – แผนที่ – ที่รัก  เป็นต้น
โจ๊ก ๔๕๒ คำเฉลย
      สีขาวรสเปรี้ยวดีเชียวแหละ

เอามาแกะกินเนื้อในลูกใหญ่บ้าง

รสชาติเลอเลิศระเสริฐจัง

อยู่ยังลำคลองและหนองบึง

สารส้ม

ส้มโอ

โอชะ

ชะโด

9.  คำตัดคำต่อ  เป็นธงโจ๊กที่ต้องแก้ปริศนาหลายชั้นมากที่สุดมีหลักเกณฑ์เดียว  คือต้องมีเหตุผลในการให้คำตอบ  เพียงแต่อ่านปริศนาให้เข้าใจก่อนจะดีปัญหาเป็น  รูปธรรมเช่น  คำว่า กวาง – ใส่ไม้โทเป็น – กว้าง, ตัดไม้โทตัด ก.ไก่ เป็น – วาง, ตัด ง. งู อีกทีเป็น – วา  เป็นต้น
โจ๊ก ๔๖๔ คำเฉลย
      ญาติ เอ๋ย ญาติฉัน

จานนั้นใส่ของลองอ่านเขียน

ควบม้าตามมาอย่าวกเวียน

อย่าอาเจียนกลิ่นหึ่งถึงเป็นลม

อา

จ.จาน

ม.ม้า

อาจม (แปลว่า – อุจจาระ)

เวลาตอบโจ๊กตัวอักษรนี่ ถ้าตอบถูก นายโจ๊กจะกดกริ่ง เพื่อบอกว่าถูก ส่วนเวลาตอบผิด นายโจ๊กจะตีกลองตามจำนวนครั้งที่ผิด เช่น ผิด 1 คำตอบ ก็ตีกลอง 1 ที เพราะฉะนั้นเวลาใครตอบแล้วโดนตีกลอง 4 ทีรวดนี่จะฮามาก (ผิดหมดเลย)​ บางทีเวลาตอบแค่ตอบคำตอบแรก ถ้ามันหลุดไปไกลมากก็โดนตีกลองรัวเลย 555

มารยาทเล็กๆน้อยๆสำหรับการทายโจ๊กคือ สมมติว่าเวลาคนอื่นทายโจ๊กอยู่ แล้วคำตอบเกือบจะได้แล้ว ถ้าเราคิดคำตอบออก ก็ไม่ควรไปแย่งตอบ ถ้าแย่งตอบ ภาษาโจ๊กเขาเรียกว่าการทุบโจ๊ก ซึ่งเป็นการผิดมารยาท ยกเว้นว่าคนนั้นจะยอมแพ้แล้วไปทายโจ๊กอื่นก่อน ตอนนี้แหละตอบได้เลย

เขียนเสร็จแล้วอยากกลับไปเล่นมาก ไม่ได้เล่นนานแล้ว สมองตีบตันหมดแล้ว T^T

Posted in: game Tagged: game, Local, Poetry
« Previous 1 2

Categories

Copyright © 2023 Norakaa.com.

Omega WordPress Theme by ThemeHall