รีวิวชีวิต 2018
อันที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ แต่ปีนี้เป็นปีที่หลายๆ อย่างในชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากจริงๆ จนต้องบันทึกเอาไว้
[อ่านต่อ…]อันที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ แต่ปีนี้เป็นปีที่หลายๆ อย่างในชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากจริงๆ จนต้องบันทึกเอาไว้
[อ่านต่อ…]จริงๆเขียนไว้แล้วบนเฟสบุค แต่คิดว่าเอามาเก็บไว้ที่นี่อีกอันดีกว่า กลัวหาไม่เจอวันหลัง 55555
คือเผอิญว่าแม่มาเที่ยวบางกอกพอดีเลยหิ้วซอสพริกมาฝาก ก็เลยมีโอกาสได้กินซะทีหลังจากไม่ได้กินมานานนนนนนนมาก [อ่านต่อ…]
อาทิตย์ก่อนตอนกำลังนั่งหาข้อมูลบนเนต (จริงๆคืออู้งานนั่นแหละ) ก็มีโฆษณาโผล่ขึ้นมาบน news feed ของเฟสบุค เป็นรายการทีวีใหม่ออกทางช่อง Syfy (ช่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จัก) ชื่อรายการว่า Robot Combat League แหม่ แค่ชื่อก็กระตุกต่อม nerd แล้วนะ ลองเข้าไปดูเฟสบุคของรายการนี้ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/RobotCombatLeague
กติกาการแข่งขัน จะต่อสู้กัน 3 ยก ยกละ 2 นาที มีกรรมการ 3 คนคอยให้คะแนนพร้อมสามารถสั่งเบรคได้ถ้าหุ่นมันจะพัง :p
ลักษณะรายการเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 12 ทีม แต่ละทีมจะมี Robot Jockey กับ Engineer ร่วมมือกัน เท่าที่ดูคร่าวๆเหมือน Jockey จะควบคุมการต่อสู้ ส่วน Engineer จะดูการเคลื่อนไหว + ซ่อมบำรุง แล้วแต่ละทีมก็จะได้รับหุ่นที่ไม่เหมือนกันตั้งแต่แรก และไม่มีสิทธิเลือกหุ่น
คือ ที่ชอบเนี่ย เพราะผมเชื่อว่าทุกคนคงมีความฝันอยากเห็นการต่อสู้ของหุ่นยนต์มาตั้งแต่เด็กแล้วแหละ สิ่งที่เติมเต็มจินตนาการได้มันก็พอมีนะ พวกหนัง การ์ตูน หรือไม่ก็พวกเกม แต่ว่ามันก็ยังไม่สะใจเท่าของจริงแน่ๆอะ แต่ก็แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีสมัยก่อนมันทำยาก แต่พอมายุคปัจจุบัน เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาก อะไรๆมันก็ง่ายขึ้นเยอะ
สมัยก่อนก็เคยมีหุ่นยนต์จริงๆสู้กันนะ แต่ตอนนั้นหุ่นจะเป็นเหมือนรถบังคับน่ะ แล้วก็ติดอาวุธมาสู้กัน สมัยนั้นก็ว่าสนุกแล้วนะ แต่มายุคนี้นี่แบบว่า เป็น Humanoid บังคับด้วยแขนกลแล้วแบบ โอยยย เจ๋งอะ ดีขึ้นเยอะเลย >_<
อนาคตนี่ ถ้าเทคโนโลยีหุ่นยนต์พัฒนามากกว่านี้ อาจเห็นอะไรคล้ายๆกับเรื่อง Real Steel ก็ได้นะใครจะไปรู้ 😀
ลองดูตอนแรกของรายการนี้ได้ที่นี่
เคยได้อ่านบทความเกี่ยวกับ BitCoin ครั้งนึงจากลิ้งนี้ ก็ได้สังเกตเห็นว่า ระบบของ BitCoin ออกแบบมาให้มีเงินในระบบได้ไม่เกิน 21 ล้าน BTC จึงสงสัยว่าทำไมถึงออกแบบไว้แค่นั้น? เพราะมันเป็นระบบการขุดเหมืองนี่น่าจะหาเงินไปได้เรื่อยๆนี่นา ก็เลยลองศึกษาดู เกี่ยวกับระบบเงินตรา ก็เลยทราบว่า สิ่งที่กำหนดว่าประเทศใดจะพิมพ์เงินได้เท่าไหร่ ก็คือเงินสำรองระหว่างประเทศ ถ้าประเทศไหนมีเงินสำรองเยอะ ก็พิมพ์เงินมาใช้ได้เยอะ ถ้าประเทศไหนมีเงินสำรองน้อย ก็พิมพ์เงินมาใช้ได้น้อย ลองอ่านคำอธิบายจากกระทู้นี้ดู น่าจะได้ไอเดีย
แล้วทำไมต้องใช้ทองคำ?
คือมันมีคอนเซปอยู่คร่าวๆนะที่ใช้ทองคำเพื่อเป็นตัวแทนในการสำรองเงินน่ะ (มีอย่างอื่นด้วยนะที่ใช้สำรอง แต่เอาทองอย่างเดียวละกัน)
ประมาณนี้แหละ(มั้ง) เขาก็เลยเลือกทองคำเป็นสื่อกลางในการบอกว่า ไอ้นี่แหละ คือตัวแทนมูลค่าเงิน
ทีนี้ก็เลยสงสัยต่อไปว่า แล้วถ้าสมมติว่าเกิดเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา สามารถสังเคราะห์ทองคำได้ที่ต้นทุนต่ำมากๆ เนี่ย ระบบเงินตราโลกจะเป็นไงน้อ???
จบละ พิมพ์มานาน สงสัยแค่ประโยคสุดท้ายนี่แหละ 55555
เรื่องผีนี่แม่งเป็นเรื่องประจำที่มีในทุกออฟฟิสเลยนะ อย่างออฟฟิสผมนี่เมื่อสองวันก่อนจู่ๆปริ๊นเต้อก็ดันปริ๊นเอกสารออกมาเองเป็นเอกสารเรียนภาษาจีน พนักงานก็งงเลย มองหน้ากันไปมา แล้วก็ถามกันว่าใครมีเอกสารตัวนี้มั้ย พอเช็คแล้วว่าไม่มีใครมี ทีนี้หลอนเลย เย็นนั้นรีบกลับบ้านกันไม่รอออฟฟิสปิดเลย 5555 เผอิญตอนนั้นผมแม่งอยู่ข้างนอกไง ไปประชุมกับลูกค้าอยู่ พอกลับมาตอนเย็นก่อนเลิกงานนี่ตกใจเลย พนักงานหายหมด ไอ้เราก็นึกว่าเกิดอะไรขึ้น เลยไปถามแผนกอื่นก็เลยทราบเรื่อง
ทีนี้มันเริ่มตลกตรงที่ว่า วันต่อมามีพนักงานคนนึงในแผนกบอกว่า เมื่อคืนเข้าฝันว่ามีเจ้าที่มาเข้าฝันว่าจัดโต๊ะขวางทางเขา พอเป็นแบบนั้น พนักงานก็เลยจัดโต๊ะกันใหม่หมดอีก ย้ายไปย้ายมาให้มันหลบประตู 555
ผมเองตอนเช้าก็มาเช็คการเชื่อม network ในห้องดู พบว่า network ในออฟฟิสนี่เชื่อมกับอีกแผนกนึงชั้นล่างเพื่อแชร์เนตกัน โดยเชื่อมผ่าน switch ก็เลยคิดว่าแผนกข้างล่างนี่ต้องสั่งปริ๊นเอกสารแล้วเลือกปริ๊นเต้อผิดอันแน่ เพราะในบริษัทนี่ใช้รุ่นเดียวกันหลายตัวเลย ก็เลยเอาเอกสารที่สั่งปริ๊นมาลงไปเช็ค
ผลคือ ชัดเจน พนักงานข้างล่างสั่งปริ๊นแล้วดันเลือกปริ๊นเต้อผิด ไอ้เราก็เลยกลับขึ้นมาบอกให้พนักงานในแผนกได้รู้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว แต่ละคนกลัวผีกันไปเรียบร้อยแล้ว ซวยเลย 555
ก็นะ พอคนเราเจออะไรที่อธิบายไม่ได้ก็เริ่มหลอน จิตตก สร้างจินตนาการกันไปเอง เสร็จแล้วก็เอาไปฝันเพื่อตอกย้ำความกลัวของตัวเอง แล้วก็วน loop ไปเรื่อยๆ แหม่ แย่จริมๆเบย 555